ต้องทำอย่างไรเมื่อ รถจมน้ำ วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ

จากข่าวอุบัติเหตุในช่วงปี 2022 นี้ จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่นั้นมักจะเกิดขึ้นทางน้ำ เนื่องจากอุบัติเหตุคือสิงที่มักเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด ดังนั้นเมื่อถึงเวลาคับขันจริงๆ ผู้คนจึงไม่มีวิธีการเอาตัวรอดที่ถูกต้องจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุสลดใจนี้ขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงขอหยิบยกวิธีการเอาตัวรอดเมื่อ รถจมน้ำ มาฝากกัน หากอยู่ใสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ตามเรามาดูกันเลย

วิธีเอาตัวรอดเมื่อ รถจมน้ำ

เมื่อรถตกไปในแม่น้ำจะยังไม่จมลงในทันทีทันใด แต่จะค่อยๆ จมลงเรื่อยๆ ซึ่งคุณจะมีเวลาแค่ 1-2 นาทีก่อนที่รถจะจมมิดทั้งคันจนไม่มีอากาศเหลือเลย ถือว่ามีเวลาน้อยมากในการต้องเอาชีวิตรอด ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้

1. ต้องตั้งสติให้ดี

สิ่งแรกที่ต้องรู้คือเมื่อ รถจมน้ำ คือ รถจะยังไม่จมลงในทันทีแต่จะค่อยๆ จมลงอย่างช้าๆ ซึ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก ดังนั้นจึงควรตั้งสติให้ดีอย่ามัวแต่ตื่นตกใจ ในขณะเดียวกันให้พยายามยกศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น

2. ปลดเข็มขัดนิรภัยออก

เมื่อรู้ตัวว่ารถจมน้ำรีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกทันที แต่หากมีเด็กเล็กนั่งมาในรถด้วยให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยของเด็กออกก่อนแล้วจึงค่อยช่วยเหลือคนอื่นๆ ในตอนนี้ต้องตั้งสติให้มากที่สุดและหายใจให้เป็นปกติ แต่เมื่อถึงช่วงที่ระดับน้ำเริ่มสูงกว่าหน้าอกแล้วให้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นหายใจและหาทางออกจากรถต่อไป

3. ปลดล็อกประตูทุกบาน

รีบปลดล็อกประตูรถทุกบานเพื่อเตรียมออกจากรถเร็วให้ที่สุด ซึ่งในช่วงแรกที่รถจมน้ำแรงดันน้ำจากด้านนอกจะทำให้เปิดประตูรถไม่ได้ แต่เมื่อเปิดหน้าต่างไว้และรอจนน้ำเข้ามาเกือบมิดหลังคารถแล้วจะสามารถเปิดประตูรถออกได้ แต่ว่าการรอทำเช่นนั้นจะค่อนข้างลำบากมาก ทางที่ดีควรรีบหนีออกทางหน้าต่างรถก่อนที่น้ำจะท่วมเต็มคันจนไม่มีอากาศหายใจเหลืออยู่เลย

4. เปิดกระจกรถให้เร็วที่สุด

ควรเปิดกระจกรถให้เร็วที่สุด ทั้งนี้หากเป็นกระจกรถยนต์แบบหมุนนั้นก็ไม่ยากนัก แต่ถ้าเป็นกระจกรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนใหญ่เมื่อ รถจมน้ำ ระบบไฟฟ้าจะยังทำงานได้อีกประมาณ 5 นาที แต่ถ้าไม่สามารถเปิดกระจกได้แล้วก็ต้องหาอะไรมาทุบกระจกด้านข้างให้แตก หรือถ้าไม่มีอะไรพกติดรถไว้เลย ให้ยกพนักพิงออกจากนั้นดึงก้านเหล็กปลายแหลมออกมา และเสียบไปที่ร่องกระจกด้านข้าง โดยให้ตอกเข้าไปประมาณ 1 นิ้ว แล้วออกแรงงัดเข้าหาตัวจะทำให้กระจกแตกได้

5. เปิดประตูรถออกเมื่อความดันในรถเท่ากัน

เมื่อรถจมน้ำ ประตูรถจะไม่สามารถเปิดได้ เพราะแรงดันภายในและภายนอกรถไม่เท่ากัน ต้องรอให้น้ำไหลเข้ามาในรถครึ่งคันหรือจนเกือบมิดหลังคาจะทำให้ประตูรถเปิดออกได้ เมื่อเปิดประตูออกมาได้แล้วให้รีบพุ่งตัวออกจากรถโดยเร็วที่สุด

6. พกอุปกรณ์ที่สามารถทุบกระจกรถได้

ควรพกอุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่สามารถทำให้กระจกรถแตกออกได้ง่ายๆ ในกรณีฉุกเฉิน โดยควรทุกบที่บริเวณกระจกข้าง เพราะบริเวณกระจกหน้าและกระจกหลังจะแตกยากกว่า

7. รีบว่ายน้ำให้ออกห่างจากตัวรถมากที่สุด

เมื่อหาทางออกจากรถได้แล้วให้รีบว่ายน้ำออกห่างจากตัวรถให้มากที่สุด แต่หากไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ทิศใด ให้ปล่อยตัวตามธรรมชาติแล้วให้ตัวลอยขึ้นมาเอง หรืออาจดูได้จากฟองอากาศว่าลอยตัวไปทางทิศไหนแล้วจึงค่อยว่ายน้ำตามไปในทิศทางนั้น

8. ควรมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการลอยตัวติดรถไว้เสมอ

สุดท้ายนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอและมักเป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิด เพราะฉะนั้นจึงควรมีอุปกรณ์ไว้ติดรถ ที่สามารถเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้ เช่นกรณีรถจมน้ำนี้ อาจมีถุงลมชูชีพ ห่วงยาง หรืออุปกรณ์อะไรก็แล้วแต่ที่สามารถช่วยในการลอยตัวได้ ติดรถไว้เผื่อในกรณีที่คุณว่ายน้ำไม่เป็น อุปกรณ์เหล่านี้ก็จะสามารถช่วยให้คุณพ้นจากวิกฤติได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ วิธีเอาตัวรอดเมื่อ รถจมน้ำ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน ขอให้พึงระลึกเสมอว่า อุบัติเหตุคือเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและไมมีใครอยากให้มันเกิด เราจึงอยากแบ่งปันสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของชีวิต ที่สำคัญจะได้เอาไว้ใช้ในยามคับขันและสามารถเอาตัวรอดให้ปลอดภัยได้

รูปภาพประกอบ : www.peakpx.com