รีวิว Haval Jolion 12 กม./ลิตร! ตัวล่าสุดหลักจากปรับปรุง Software ราคา
Haval Jolion เป็นรถ SUV รุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในไทย โดยเฉพาะตัวเครื่องยนต์แบบไฮบริดที่มาพร้อมระบบประหยัดจึงทำให้รถรุ่นนนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วยไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Haval Jolion ปรับปรุงระบบ ซอฟต์แวร์ ใหม่เพื่อให้รองรับการใช้งานที่ดีและประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น แต่จุดเด่นและข้อดีของรถที่ปรับปรุงใหม่นี้จะเป็นยังไงเรารวบรวมมาแบ่งปันดังนี้
ทำความรู้จัก Haval Jolion
Haval Jolion เป็นรถ SUV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย ตลอดจนฟังก์ชันและดีไซน์ที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดอัจฉริยะที่รับประกันเรื่องประหยัดน้ำมัน มีสมรรถนะโดดเด่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรถแบรนด์นี้มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย
1.รุ่น Ultra
2.รุ่น Pro
3.รุ่น Tech
ทั้งยังมีให้เลือกทั้งหมด 5 สีประกอบไปด้วย
- สีแดง (Burgundy Red)
- น้ำเงิน (Swarovski Blue)
- เทา (Ayers Gray)
- ดำ (Sun Black)
- ขาว (Hamilton White)
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 879,000 – 999,000 บาท
ภายในตัวรถ
- รถทั้งสามรุ่นของ Haval Jolion มีความแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งโดยรวมตัวเบาะถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับสรีระของผู้ใช้งานได้หลากหลาย พร้อมระบบระบายความร้อนจากตัวเบาะ จึงทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกนั่งสบาย ไม่ร้อน นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวาง มีช่องวางแก้วน้ำ ช่องชาร์จไฟแบบ USB และช่องแอร์ด้านหลังที่จะช่วยกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง สามารถปรับระบบทั้งหมดได้จากหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้อย่างครบครัน
ภายนอกตัวรถ
- รูปลักษณ์ภายนอกของรถถูกออกแบบมาให้มีความโฉบเฉียวดูล้ำสมัยพร้อมไฟหน้า Intelligent LED Headlamp รูปตัวแอล ชุดไฟเปิดปิดอัตโนมัติ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน พร้อมชุดแต่งโครเมียม บริเวณขอบหน้าต่างประตู ชายประตู และกันชนหน้าและหลัง สำหรับรุ่น Ultra มาพร้อมล้ออัลลอยแบบทูโทน 18 นิ้ว ส่วนรุ่น Tech และ Pro มาพร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว หลังคาซันรูฟแบบ Panoramic ขนาดใหญ่ สามารถเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า จึงทำให้รถรุ่นนี้ดูหรูหรา น่าสนใจ มากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
Haval Jolion เป็นรถไฮบริดไฟฟ้าแบรนด์น้องใหม่ที่ออกแบบมาด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ที่มียอดขายสะสมมากกว่า 6.5 ล้านคัน สร้างสถิติยอดขายอันดับหนึ่งในประเทศจีนยาวถึง 11 ปี ด้วยนวัตกรรมน่าสนใจ ซึ่งประกอบไปด้วย
- แอปพลิเคชันอัจฉริยะ
- ระบบตรวจสอบสถานะประตูห้องโดยสารรอบคัน
- ระบบตรวจระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและปรับอากาศ
- ระบบค้นหารถยนต์และตำแหน่งรถยนต์
- ระบบติดต่อคอลเซ็นเตอร์และระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อสัญญาณกันขโมยทำงาน
- ระบบล็อคประตูอัจฉริยะ
- เทคโนโลยีอัจฉริยะที่มาพร้อมตัวรถ
- คันเร่งอัจฉริยะสามารถเร่งและชะลอความเร็วได้อัตโนมัติ พร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ทำงานร่วมกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 เพื่อลดความเร็วและรักษาระยะห่างกับรถด้านหน้า
- ระบบควบคุมความเร็วระหว่างเข้าโค้งอัจฉริยะ ซึ่งทำงานร่วมกับกล้อง ACC เพื่อตรวจสอบระดับความโค้งของถนนและปรับความเร็วให้ปลอดภัยที่สุด
- ระบบเข้าจอดอัจฉริยะ 3 รูปแบบซึ่งจะมีเซ็นเซอร์และกล้องคอยตรวจสอบวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดสามารถทำงานได้ทั้งแนวตรง, แนวเฉียง, และจอดเทียบข้าง
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศาซึ่งตัวรถมีกล้องทั้งหมด 4 ตัว พร้อมความละเอียดคมชัดแบบ 4 Megapixel
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก ซึ่งสามารถตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ คนเดินบนถนน เพื่อคำนวณระยะห่างเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อรถอยู่ในจุดอับสายตา ขณะถอยหลัง ซึ่งระบบอัจฉริยะนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ช่องทางเดินต่าง ๆ เพื่อเลี่ยงการชน
- ระบบหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้รถขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มระยะห่างที่เหมาะสม
- ระบบรักษาความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- ระบบช่วยเตือนความดันลมยาง
- ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่เมื่อผู้ขับขี่ขับใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้จอดรถเพื่อพัก
สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากปรับปรุง software
รถ Haval Jolion มาพร้อมสเปคเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์วระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Multi-Point Fuel Injection แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดเครื่องยนต์สูงสุดอยู่ที่ 375 นิวตัน ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และหลังจากอัฟเดทซอฟต์แวร์มาใหม่ สามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นถึง 25% หรือประมาณ 14-16 กิโลเมตรต่อลิตร ด้วยเหตุนี้รถรุ่นใหม่ที่ผ่านการปรับปรุงซอฟต์แวร์ จึงเป็นหนึ่งในรถที่น่าสนใจในช่วงปี 2022 นี้
รีวิว Haval Jolion 12 กม./ลิตร! ตัวล่าสุดหลักจากปรับปรุง Software ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงหนึ่งในรุ่นรถที่น่าสนใจ ทั้งยังมีระบบ Eco Car ซึ่งเป็นระบบใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเฉพาะรุ่น จึงเหมาะมากสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ทั้งนี้คนที่สนใจก็ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้เรา ได้ใช้รถที่คุ้มค่าเหมาะสมกับการใช้งานในแบบของเรามากที่สุด
แหล่งอ้างอิง
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ รีวิวรถยนต์
เครดิตภาพ sanook
